UFABETWINS ฆาบี มาร์ตีเนซ อีกหนึ่งแข้งประวัติศาสตร์ของบาเยิร์น
ฆาบี มาร์ตีเนซ มิดฟิลด์ชาวสเปนวัย 32 ปีเตรียมก้าวลงจากหลังเสือในช่วงซัมเมอร์นี้ปิดฉากการค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2012
จากนักเตะที่คนส่วนใหญ่ในมิวนิคไม่รู้จักมาก่อน ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชาวสเปนที่ประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์ จากการคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีการ่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค 8 สมัยติดต่อกันและกำลังจะซิวแชมป์สมัยที่ 9 ในวันเสาร์นี้
มิดฟิลด์วัย 32 ปีกวาดแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค รวมกัน 23 รายการ ทั้ง บุนเดสลีกา 8 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย, เดเอฟแอล ซูเปอร์ คัพ 4 ครั้ง, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2 ครั้ง
ฆาบี ยังกด ‘ทริเปิ้ลแชมป์’ ร่วมกับทีมยักษ์ใหญ่แคว้นบาวาเรีย 2 ครั้ง ในซีซั่น 2012-2013 และ 2019-2020
เขากำลังจะก้าวลงหลังเสือเตรียมอำลาสโมสรหลังสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ตามรอย ดาวิด อลาบา และ เยโรม บัวเต็ง ปิดฉากการเล่นกับทีมเสือใต้นาน 9 ปี นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอธเลติก บิลเบา ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012
‘ผมภูมิใจและมีความสุขมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เอฟซี บาเยิร์น เป็นเวลา 9 ปี ผมขอขอบคุณสโมสรที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆของเรา คุณทำให้มิวนิคเป็นบ้านของผม! ผมจะไม่มีวันลืม 9 ปีนี้ ตั้งแต่วันแรกผมรู้สึกถึง ‘เราคือสิ่งที่เราเป็น’ และลักษณะพิเศษของ เอฟซี บาเยิร์น ผมอยู่เพื่อสโมสรนี้, มอบทุกอย่างเพื่อสโมสรนี้เสมอและมีความสุขมากกับแชมป์หลายรายการที่พวกเราคว้ามาด้วยกัน’
‘เอฟซี บาเยิร์น และแฟนบอลจะอยู่ในใจผมตลอดไป ขอบคุณมาก (ภาษาสเปน), ขอบคุณมาก (ภาษาเยอรมัน) ด้วยความยินดี แล้วพบกันใหม่!’
ขณะที่สองผู้บริหารระดับสูงของ บาเยิร์น มิวนิค ทั้ง แฮร์เบิร์ต ไฮเนอร์ ประธานสโมสร, คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอ, โอลิเวอร์ คาห์น บอร์ดบริหาร และ ฮาซาน ซาลิฮามิดชิช ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีมเสือใต้ต่างกล่าวยกย่อง ฆาบี มาร์ตีเนซ เช่นกัน
‘ฆาบี มาร์ตีเนซ เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ชัดเจนว่า เอฟซี บาเยิร์น หมายถึงอะไร เมื่อนักเตะชั้นนำระดับนานาชาติยืนยันตัวตนกับสโมสรของเราในแบบที่เขาทำ คุณจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ ฆาบี กลายเป็นหนึ่งในพวกเขาอย่างรวดเร็วและความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อที่เราได้รับจากเขานั้นพูดได้ด้วยตัวมันเอง’
‘ฆาบี มาร์ตีเนซ จะมีสถานที่พิเศษในประวัติศาสตร์ของสโมสรนี้เสมอ เราอวยพรให้เขาได้รับสิ่งดีที่สุดในอนาคตของเขา’ ไฮเนอร์ กล่าว
‘มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากตอนที่เราเซ็นสัญญากับ ฆาบี มาร์ตีเนซ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 เพราะจำนวนเงิน 40 ล้านยูโรเป็นค่าตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเราในช่วงเวลานั้น การตัดสินใจเกิดขึ้น ฆาบี มอบคุณภาพที่ยอดเยี่ยมให้กับทีมของเราในแง่ของการเล่นและเป็นแบบอย่างส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมมาตลอด’
‘ไฮไลท์ของหลากหลายรายการที่เขาคว้าแชมป์ร่วมกับเรา แน่นอนคือการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย ในปี 2013 กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และในปี 2020 กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเราทุกคนยังจดจำสองประตูของเขาในช่วงท้ายเกมใน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ กับ เชลซี ในปี 2013 และเกมกับ เซบีย่า ในปี 2020’
‘ผมขอขอบคุณ ฆาบี สำหรับช่วงเวลาที่สนุกสนานและประสบความสำเร็จอย่างมาก ฆาบี คุณจะเป็นส่วนสำคัญของครอบครัว เอฟซี บาเยิร์น เสมอ’ รุมเมนิกเก้ กล่าวถึงมิดฟิลด์วัย 32 ปี
‘เอฟซี บาเยิร์น สามารถฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ด้วยการขอบคุณ ฆาบี มาร์ตีเนซ, ฆาบี เป็นรากฐานสำคัญของทีมเราเป็นเวลา 9 ปี ซึ่งในช่วงเวลานั้น เราได้สร้างประวัติศาสตร์ การคว้าแชมป์บุนเดสลีกาทุกปีจนถึงตอนนี้ แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, ทริเปิ้ลแชมป์ 2 ครั้ง นั่นคือสิ่งที่พูดด้วยตัวมันเอง ขอบคุณมาก, ฆาบี!’ คาห์น กล่าวยกย่อง
ตบท้ายด้วยคำพูดจาก ซาลิฮามิดซิช ว่า ‘ฆาบี เป็นนักเตะที่สำคัญมากสำหรับ เอฟซี บาเยิร์น ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา นักเตะที่มีบทบาทสำคัญไม่ใช่แค่ในสนาม แต่ยังรวมถึงในห้องแต่งตัวและรอบๆสโมสรด้วย สถิติของเขาแทบจะไม่มีใครเทียบได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมใหญ่ที่เขาเป็นคนหนึ่งที่สร้างความแตกต่าง เริ่มต้นด้วยนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2013 เขาเป็นคนที่มีความสามารถรอบตัว, รับใช้ทีมและมอบทุกอย่างของเขาให้เสมอ ฆาบี มีตำแหน่งถาวรในครอบครัว เอฟซี บาเยิร์น และจะรักษามันไว้’
ตลอด 9 ปีที่ค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค, ฆาบี มาร์ตีเนซ ลงเล่นทุกรายการรวมกัน 266 เกม ทำ 14 ประตู เขาลงเล่นบุนเดสลีกาเพียง 163 เกมและทำ 9 ประตู เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนหลายครั้ง
ส่วน 5 ไฮไลท์ที่น่าจดจำของ ฆาเบียร์ มาร์ตีเนซ กับ เอฟซี บาเยิร์น มีดังนี้
1.การเซ็นสัญญาด้วยค่าตัวสถิติสูงสุดของสโมสร
มันเกิดขึ้นหลังจากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยติดต่อกันของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นทำให้ จุ๊ปป์ ไฮยน์เกส เทรนเนอร์ทีมเสือใต้ในขณะนั้นรู้ดีว่าต้องทำอะไรบางอย่างและหนึ่งในแนวทางการแก้ปัญหาของเขาคือการเซ็นสัญญากับ ฆาบี มาร์ตีเนซ จาก แอธเลติก บิลเบา แม้ว่าหลายคนในมิวนิคยังไม่รู้ถึงความสามารถของเขาก็ตาม ‘ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครตอนที่เราเซ็นสัญญากับเขา’ ไฮยน์เกส กล่าว ‘ฟร้านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ คิดว่าเขาเป็นคนชอบกาแฟ!’
ฆาบี มาร์ตีเนซ เป็นนักเตะที่คนในมิวนิคแทบไม่รู้จัก แม้ว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปนชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 กับ แชมป์ยูโร 2012 ก็ตาม แต่ เอฟซี บาเยิร์น ยอมควักทุนสูงถึง 40 ล้านยูโรเพื่อฉีกสัญญาของนักเตะกับทีมดังแคว้นบาสก์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรในขณะนั้น
มิดฟิลด์ตัวรับชาวสเปนเหมือนเป็นคาเฟอีนที่ บาเยิร์น มิวนิค ต้องการ ในซีซั่นแรกของเขาในมิวนิคช่วยให้ทีมเสือใต้เสียเพียง 18 ประตูในฤดูกาล 2012-2013 น้อยสุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา ดีกว่าผลงานในซีซั่น 2011-2012 ที่เสีย 22 ประตู
‘เขาเป็นนักเตะที่น่าเชื่อถือที่เล่นด้วยความฉลาดในตำแหน่งของเขา’ ไฮยน์เกส กล่าว ‘นั่นหมายความว่าคุณไม่มีความเสี่ยงในการเล่นเกมป้องกัน เขาเป็นนักเตะที่เล่นเกมรับโดดเด่นที่ครองบอลดี, ครอบคลุมพื้นที่จำนวนมากและเข้าปะทะแข็งแกร่งดุดัน’
2.กุญแจสำคัญสู่’ทริเปิ้ลแชมป์’
คำพูดของ ไฮยน์เกส ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงและมีฤดูกาลที่น่าจดจำตั้งแต่ปีแรก หลัง บาเยิร์น มิวนิค วืดแชมป์บุนเดสลีกา 2 ปีติดต่อกัน ขณะที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สร้างสถิติใหม่เก็บ 81 คะแนนในปี 2012
แม้ว่า ฆาบี มาร์ตีเนซ ยังต้องดิ้นรนเพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงในช่วงแรก เนื่องจาก ไฮยน์เกส เลือกใช้งาน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กับ ลุยซ์ กุสตาโว่ เป็นมิดฟิลด์คู่กลางในระบบ 4-2-3-1 จนกระทั่งถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ฆาบี เบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงมาจากมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียน ท้ายที่สุดมิดฟิลด์ชาวสเปนลงเล่น 27 เกม สตาร์ท 21 เกมในฤดูกาลนั้น ก่อน บาเยิร์น มิวนิค จะทวงถาดแชมป์กลับคืนมาจากทีมเสือเหลืองพร้อมสร้างสถิติใหม่เก็บได้ถึง 91 คะแนน
อดีตมิดฟิลด์ บิลเบา ยังลงเล่น 5 จาก 6 เกมในรายการ เดเอฟเบ โพคาล ซึ่งรวมถึงรอบชิงชนะเลิศที่สอย สตุ๊ตการ์ท 3-2 และลงสนาม 11 จาก 12 เกมบนเส้นทางแชมเปี้ยนส์ลีกจนถึงรอบชิงชนะเลิศกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และสิ่งที่ ฆาบี มาร์ตีเนซ ทำในสนามเวมบลีย์พิสูจน์ให้เห็นถึงความถูกต้องการในยืนกรานของ ไฮยน์เกส ที่ต้องการเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ชาวสเปน
‘ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมที่ดีกว่าในช่วงเริ่มเกม’ ไฮยน์เกส กล่าว ‘แต่แล้ว ฆาบี ชนะแท็คเกิ้ล 3 จาก 4 ครั้ง และจากนั้นเครื่องก็เริ่มทำงาน เขาเป็นนักเตะที่สำคัญมากในระบบของผม’ หลังจากคว้า ‘ทริเปิ้ลแชมป์’ ครั้งแรกของสโมสรก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆเกิดขึ้น
3.จากมิดฟิลด์สู่เซนเตอร์
เมื่อ ไฮยน์เกส ก้าวลงจากตำแหน่งพร้อมการมาของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในมิวนิคของ ฆาบี มาร์ตีเนซ ด้วยการที่ กวาร์ดิโอล่า ต้องการให้นักเตะเล่นบอลทั่วทุกพื้นที่ของสนาม ฆาบี จึงถูกจับมาเล่นเซนเตอร์บ่อยกว่าที่เขาลงเล่นตำแหน่งถนัด แต่นั่นไม่ใช่บทบาทใหม่สำหรับเขาเนื่องจากเคยเล่นตำแหน่งนี้มาก่อน
ฆาบี มาร์ตีเนซ เคยถอยมาเล่นเซนเตอร์กับ แอธเลติก บิลเบา ภายใต้การทำทีมของ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า กุนซือคนปัจจุบันของ ลีดส์ ยูไนเต็ด นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ เป๊ป จับเขาลงเล่นตำแหน่งดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ โดยลงสนาม 22 จาก 38 เกมและเป็นหัวใจสำคัญในเกมป้องกันของทีมเสือใต้ในปีแรกของ กวาร์ดิโอล่า
‘เราทำงานด้านแท็คติกมากมายและเขาสอนผมด้วยการการดูวิดีโอเทปถึง 200 รายการ’ มาร์ตีเนซ เคยบอกกับ สปอร์ต1 ‘เขาสอนให้ผมเล่นเซนเตอร์ด้วยวิธีที่แตกต่างจากที่ผมคุ้นเคยภายใต้ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ที่ต้องการให้ผมเล่นแบบ ‘แมน-ทู-แมน”
หลัง กวาร์ดิโอล่า อำลาทีมเสือใต้ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 คาร์โล อันเชล็อตติ ยังใช้งาน ฆาบี มาร์ตีเนซ ในแนวรับเช่นเดียวกัน แต่เมื่อ ไฮยน์เกส กลับมาคุมทีมชั่วคราวในซีซั่น 2017-2018 ยังกล่าวชื่นชมนักเตะที่ลงเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แล้วทำได้ดีเช่นกัน ‘คนก่อนหน้าผมคิดถูกแล้วที่ส่งเขาเล่นเซนเตอร์เพราะเขาสามารถเล่นที่นั่นได้เช่นกัน’
4.ดีสุดของลีกเมืองเบียร์จากการลงเล่นเกมนอกบ้าน 100 นัด
ฆาบี มาร์ตีเนซ อาจลงสนามแบบจำกัดในช่วง 3 ปีภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เขายังมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนหลายครั้งหลายหน ผ่าตัดโคนขาหนีบ, เอ็นไขว้เข่าฉีกขาด, ปัญหาข้อเข่า และ ปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อต่างๆ ที่พรากเกมไป 1 ใน 4 จากการลงสนามมากกว่า 200 นัดของ บาเยิร์น มิวนิค
ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสที่น่ายินดีอย่างยิ่งในวันที่ 21 มกราคม 2018 ที่เขาสร้างสถิติใหม่ของบุนเดสลีกาในเกมชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 4-2 ซึ่งเป็นการลงเล่นเกมนอกบ้านนัดที่ 100 พร้อมคว้าชัยชนะเกมที่ 85 เป็นสถิติดีที่สุดของลีกเมืองเบียร์
5.ผู้ชนะตัวจริง
มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ ฆาบี มาร์ตีเนซ กำลังจะจากไปพร้อมมรดกที่เขาทิ้งไว้ โดยมีเพียง ฟร้องค์ ริเบรี่, โธมัส มุลเลอร์ กับ ดาวิด อลาบา ที่คว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกามากกว่าเขา (คนละ 9 สมัย) แต่มิดฟิลด์ชาวสเปนสร้างผลงานที่น่าจดจำด้วยการคว้าแชมป์ลีกเมืองเบียร์ 8 สมัยติดต่อกันและกำลังจะกดแชมป์สมัยที่ 9 ในวัเนสาร์นี้
เขายังคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย, 4 ซูเปอร์ คัพ, 2 แชมเปี้ยนส์ลีก, 2 ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ และ 2 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาประสบความสำเร็จมากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโหม่งทำประตูชัยของเขาในช่วงต่อเวลาพิเศษนำ บาเยิร์น มิวนิค ชนะ เซบีย่า 2-1 ในเกม ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ปี 2020
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนเขามาถึงเยอรมันมีอายุเพียง 23 ปีและมีส่วนทำให้นักเตะสเปนหลั่งใหลมาค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์มากขึ้น หลังมีนักเตะสเปนเพียง 11 คนที่เคยมเล่นบุนเดสลีกาก่อน ฆาบี มาร์ตีเนซ จะเซ็นสัญญากับ เอฟซี บาเยิร์น และมี 37 คนย้ายตามมาหลังจากเขาอาทิ ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ชาเบียร์ อลอนโซ่, ฆวน เบร์นาต, เปเป้ เรน่า, อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า และ มาร์ก โรก้า ที่เล่นกับทีมเสือใต้ทั้งหมด
คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล