๊UFABETWINS ข้อมูลชี้ชัด! 41รายดับจากเชื้อโควิดเกี่ยวพันเกมลิเวอร์พูลปะทะแอต.มาดริด
ซันเดย์ ไทม์ส สื่อชั้นนำในประเทศอังกฤษ เปิดเผยผลการศึกษาของกลุ่ม “เอดจ์ เฮลท์” (Edge Health) ที่ระบุว่าผู้ที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 41 รายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ แอตเลติโก มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัด 2 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มากกว่า เทศกาลแข่งม้าประจำปีที่อังกฤษ
สำหรับแมตช์ดังกล่าวจัดขึ้นที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีแฟนบอลจำนวนกว่า 52,000 รายโดยรวมถึงสาวก “ตราหมี” จากดินแดนกระทิงดุจำนวน 3,000 รายที่เข้าไปชมเกมนี้ โดยแมตช์นี้เป็นเกมใหญ่เกมสุดท้ายในอังกฤษก่อนที่จะมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ
ซันเดย์ ไทม์ส ได้มีการเปิดเผยผลการศึกษาของ “เอดจ์ เฮลท์” ที่นำข้อมูลของ สาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ (เอ็นเอชเอส) มาทำแบบจำลองข้อมูล และทำให้เชื่อว่าผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 41 รายมีส่วนพัวพันกับเกมที่แอนฟิลด์
นอกจากนี้จากการประเมินของวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ระบุว่ามีชาวสแปนิชจำนวน 640,000 รายที่มีผลการตรวจเป็นบวกจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนที่เกมระหว่าง “หงส์แดง” กับ “ตราหมี” จะปะทุขึ้น ในขณะที่ อังกฤษ มีผู้ติดเชื้อ 100,000 รายในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะเดียวกัน โฆเซ่ หลุยส์ มาร์ติเนซ-อัลเมด้า นายกเทศมนตรีกรุงมาดริด ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดมหันต์ที่อนุญาตให้ชาวสเปนเดินทางไปชมเกมดังกล่าว เช่นเดียวกับ แม็ทธิว แอชตัน ผู้อำนวยการสาธารณสุขของสภาเมืองลิเวอร์พูล เชื่อว่าแมตช์ที่แอนฟิลด์ นำไปสู่การแพร่ระบาดหนักของเชื้อไวรัสมรณะในเมือง
นอกจากนี้จากการวิจัยของ “เอดจ์ เฮลท์” ระบุว่าเทศกาลแข่งม้าประจำปีที่อังกฤษ (Cheltenham Festival) ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 250,000 รายในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าผู้ที่เสียชีวิตจำนวน 37 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าชมเทศกาลนี้
ทั้งนี้มีรายงานยืนยันว่า สเปน พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 253,000 ราย โดยที่เสียชีวิตไปแล้ว 28,706 ราย ในขณะที่สหราอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณไปแล้ว 257,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 36,675 ราย
“โซลชา” รักเด็ก!แมนยูเล็งดันแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์ชาวฝรั่งเศสขึ้นชุดใหญ่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมที่จะดัน ฮานนิบาล เมจบรี้ มิดฟิลด์ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ทัพ “ปีศาจแดง” ในฤดูกาลหน้า จากการเปิดเผยของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำในเมืองผู้ดี
ดาวเตะผมหยักโศกชาวฝรั่งเศส ย้ายจาก โมนาโก มาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยสนนราคา 9 ล้านปอนด์ (ราว 342 ล้านบาท) เมื่อปีที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทัพ “ผีแดง” โดยแสดงให้เห็นที่ฟอร์มการเล่นที่สุดยอดในช่วงเวลาที่ฝึกปรือฝีเท้ากับทีมระดับเยาวชน และสร้างความมั่นใจให้กับสตาฟฟ์โค้ชที่มองว่าตอนนี้ เมจบรี้ พร้อมที่จะก้าวไปอีกระดับนึงแล้ว
แม้ว่าเจ้าตัวอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น แต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม กำลังพิจารณาที่จะดึง เมจบรี้ ขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ หลังจากปลื้มกับพัฒนาการของนักเตะในช่วงที่ผ่านมา โดยสถิติของเขาน่าประทับใจมากๆ เมื่อถูกตัดฟาวล์ 26 ครั้ง จาก 13 เกมระดับเยาวชน
ความจริงแล้วเหล่าทีมสตาฟฟ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะให้โอกาส เมจบรี้ ขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ในซีซั่นนี้ เพราะมองว่านี่คือมิดฟิลด์จอมสร้างสรรค์เกม ก่อนที่ “เร้ด เดวิลส์” จะเซ็นสัญญาคว้าตัว บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 68 ล้านปอนด์ (ราว 2,584 ล้านบาท) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เมจบรี้ ผ่านการเล่นให้กับทีมแมนยู รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีมาแล้ว 1 แมตช์ในซีซั่นนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเขาจะได้เล่นให้กับทีมรุ่นยู-18 ปี และได้รับโอกาสลงสนามในเกมเอฟเอ ยูธ คัพ 4 แมตช์ แต่น่าเสียดายที่พัฒนาการของนักเตะต้องหยุดชะงัก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตาม เมจบรี้ มีความหวังที่จะได้ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลหน้า เพราะสโมสรเตรียมที่จะส่งนักเตะอย่าง เจมส์ การ์เนอร์ และ อีธาน แลร์ด ไปเล่นแบบยืมตัว ซึ่งนักเตะทั้งสองคนนี้ก็เคยได้รับโอกาสฝึกซ้อมและลงสนามให้ทีมชุดใหญ่มาแล้ว
อ่านเพิ่มเติม >>> UFABETWINS
คลิกเลย >>> https://www.projectmanagerlife.com